Wednesday, 29 March 2023
NEWS

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ลพบุรี พรรคเสรีรวมไทย ออกติดตั้งป้ายแนะนำตัว ขอคะแนนเสียง

วันที่ 28 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยิ่งวันใกล้รับสมัครรับการเลือกตั้งเข้ามาทุกที ว่าที่ผู้สมัคร พรรคเสรีรวมไทย จังหวัดลพบุรี เขต 4 อย่าง พันโท ณัฐธพงษ์ บัวบาล นายทหารนอกราชการ ( ข้าราชการบำนาญ )

 

ด้วยใจรักการเมืองโดยเฉพาะ รักพรรคการเมืองอย่าง พรรคเสรีรวมไทย ไม่รองบประมาณจากพรรค ชวนเพื่อนคู่ใจออกติดตั้งป้ายพรรค และติดป้ายแนะนำตัวของตัว ในเขต 4 แบบไม่มีกองเชียร์แต่อย่างใด ไปกับเพื่อนคู่ใจ หนึ่งคน และลูกน้องติดป้ายอีก 1 คน ช่วยกัน ติดป้ายหาแนะนำตัว

 

โดย พันโท ณัฐธพงษ์ กล่าวว่า ใกล้วันรับสมัครรับการเลือกตั้งแล้วเลยชวนเพื่อน และลูกน้องอีก 1 คน มาช่วยกันติดตั้งป้ายแนะนำตัวเอง และแนะนำพรรค เพราะรู้ว่าพรรคเราไม่ค่อยมีเงิน ดังนั้นจึงต้องออกแรงเอง ไม่อย่างนั้นสู้พรรคอื่นไม่ได้แน่นอน เพราะพรรคแต่ละพรรคในเขตนี้มีแต่พรรคที่มีตังค์ทั้งนั้นเลย

นายชัยวุฒิกล่าว

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ลานตลาดนัดวันอาทิตย์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้กล่าวปราศรัยบนเวทีของพรรค พปชร.ว่า บางคน บางพรรคยังพูดถึงโครงการเก่าในอดีต

 

โดยไม่ดูบริบทการเมือง เปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว ผมลงพื้นที่สงสารพี่น้องประชาชน บางพรรคยังพูดถึงกองทุนหมู่บ้านนโยบายเมื่อ 20 ปีที่แล้วซึ่งที่ตนเองได้ลงพื้นที่นั้น ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันมากจากกองทุนหมู่บ้าน พรรค พปชร.จะยกเลิกกองทุนหมู่บ้าน ประชาชนจะได้ไม่ต้องเป็นหนี้

 

นายชัยวุฒิกล่าวต่อว่า เพราะเป็นกองทุนที่สร้างหนี้ให้กับประชาชน จะได้ไม่ต้องสร้างหนี้ให้กับประชาชน เราต้องมองอนาคต ต้องมองนโยบายของพรรคการเมืองที่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ พร้อมมองว่ามีบางพรรคการเมืองได้คิดนโยบายที่ไกลเกินไป การเลือกตั้งนั้นให้มาเปลี่ยนรัฐบาล แต่อยากเปลี่ยนประเทศไทย คุณทำได้ไหม

 

“ถ้าคนเราเห็นว่าโลกที่เราอยู่มันไม่ดีและมีปัญหาแล้วอยากเปลี่ยนโลกนั้น มีแต่คนบ้าเท่านั้นเพราะโลกเปลี่ยนไม่ได้ แต่ทำให้โลกนี้ดีได้ โดยการตั้งใจทำความดี ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง แต่บางพรรคคิดไกลกว่านั้น ไกลแบบที่รู้ว่าคิดอะไร ไม่อยากเปลี่ยนรัฐบาล อยากเปลี่ยนอะไรวะ แล้วเรายอมให้มันเปลี่ยนไหม เขาปลุกระดม ให้ข้อมูลผิดๆ ทำให้คนแตกแยก ทะเลาะกัน ซึ่งนี่คือนโยบายสำคัญของพรรคพลังประชารัฐที่จะมาก้าวข้ามความขัดแย้ง” นายชัยวุฒิกล่าว

 

นายชัยวุฒิกล่าวด้วยว่า วันนี้ติดตามจากสื่อเห็นว่าโพลต่างๆ ไม่มีชื่อของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่รู้ว่าลืมใส่ หรือลุงป้อมไม่ได้จ่ายเงิน การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งของพวกเรา

 

เพราะเรามีนโยบาย มีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน และเขาก็จะผลักดันให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อนำนโยบายต่างๆ มาทำประโยชน์ให้กับประชาชน ไม่มีการสืบทอดอำนาจ ไม่มีการเอาเปรียบใคร ทุกอย่างเป็นไปตามประชาธิปไตย

 

มีมติเลือกให้ นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1

เวลา 09.50 น. วันที่ 27 มี.ค.66 บรรยากาศการเคลื่อนไหวทางการเมืองในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี หลังจากที่ หลังจากที่ กกต.ประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง วันรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรออกมาอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยกำหนดให้วันที่ 3 เมษายน ถึงวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2566

 

ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ถึงเวลา 16.30 น. เป็นวันรับสมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และ วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2566 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึงเวลา17.00 น. เป็นวันเลือกตั้ง ส่งผลให้แต่ละพรรคการเมือง ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เริ่มมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองกันมากขึ้นตามลำดับ

 

พรรคภูมิใจไทย เช้าวันนี้ได้มีการจัดการจัดประชุมสมาชิกพรรค เพื่อรับฟังความคิดเห็นการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนธาษฎรจังหวัดอุทัยธานี หรือ ไพรมารีโหวต (primary vote) เพื่อลงมติเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ทั้ง 2 เขตเลือกตั้ง ขึ้นที่บ้านดอนหมื่นแสน เลขที่ 32 หมู่ที่ 4 ตำบลหนองพังค่า อำเภอเมืองเมือง จังหวัดอุทัยธานี ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 ที่มีว่าที่ผู้สมัคร คือ นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ และ เขตเลือกตั้ง ที่ 2 คือ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ซึ่งบรรยากาศ เช้าวันนี้มีสมาชิกเดินทางมาเข้าร่วมประชุมกันอย่างคึกคัก

 

โดย นายยิ่งยศ สมประสงค์ ตัวแทนพรรคภูมิใจไทย เขตที่ 1 ประจำจังหวัดอุทัยธานี และเป็นประธานในที่ประชุมในครั้งนี้ เปิดเผยว่า การประชุมในครั้งนี้ จัดทำขึ้นเพื่อให้สมาชิกพรรคทำการโหวดคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนที่ทาง กกต.ได้กำหนดให้มีการจัดทำขั้นตอนดังกล่าว

 

ซึ่งพรรคภูมิใจไทย นั้นมีสมาชิกทั้ง 2 เลือกตั้ง รวมแล้วประมาณ 1,000 กว่าคน โดยวันนี้ได้มีการเชิญตัวแทนสมาชิกพรรคทั้ง 2 เขต เข้ามาทำการไพรมารีโหวต ที่ประมาณ 147 คน นายยิ่งยศ ฯ กล่าว

 

ทั้งนี้ ผลการประชุมสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เพื่อรับฟังความคิดเห็นการสรรหา ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนธาษฎร จังหวัดอุทัยธานี หรือ ไพรมารีโหวต (primary vote) เพื่อลงมติเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ทั้ง 2 เขตเลือกตั้งในครั้งนี้ สมาชิก ฯ มีมติเลือกให้ นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 และให้ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2

 

นายณัฐวุฒิได้แปลงเนื้อเพลงลุงตู่อยู่รวมไทยสร้างชาติ เพื่อฝากให้ 'ลุงตู่'

วันที่ 26 มี.ค.2566 - ที่สนามกีฬากลาง 1 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดปราศรัยใหญ่ นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครปฐมทั้ง 6 เขต ทั้งนี้ มีประชาชนมารอรับฟังคำปราศรัยเต็มพื้นที่

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเวทีปราศรัยครั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัว ไม่ได้เดินทางมาร่วมด้วย โดย นพ.ชลน่าน ปราศรัยว่า หากพี่น้องชาวนครปฐมจับมือกับพรรค พท. เรามาคิดใหญ่ร่วมกัน คิดใหญ่เรื่องแรกเหตุแห่งทุกข์คือ 3 ป.เข้ามายึดอำนาจ และสืบทอดอำนาจเป็นรัฐบาลมาอีก 4 ปี รวมแล้ว 9 ปี ตนจึงอยากเชิญชวนประชาชนร่วมกันกำจัดเหตุแห่งทุกข์

 

โดยใช้โอกาสนี้เข้าคูหากาเอาเหตุแห่งทุกข์ เอาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกไป หากเราไม่เอาเหตุแห่งทุกข์ออกไป ความทุกข์เราไม่เหือดหาย การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการตัดสินชะตาอนาคตของประชาชนและประเทศ โดยเฉพาะชาวนครปฐม

 

นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกอดีตผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ปราศรัยว่า ความเป็นจริง พรรค พท.เราต้องได้เป็นรัฐบาล เพราะเราได้ที่ 1 เลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านเขาเอาที่ 1 เป็นแต่นายกรัฐมนตรีเขาเอาที่ 2 เป็น ไม่มีทางเลือกอื่นต้องสามัคคีกันเลือก พท. เราต้องแลนด์สไลด์และในอดีตที่ผ่านมาเราทำมาแล้ว วันนี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เลือกลูกสาวมาทำหน้าที่แทน คนนครปฐมเลือกหรือไม่ นครปฐม 6 ที่นั่งไม่ต้องเกรงใจบ้านใหญ่ ไม่ต้องมีนักเลง ระบบประชาธิปไตยเสมอภาคกัน มีสิทธิ์ลงคะแนนได้ 1 คะแนน ขอบคุณนายทักษิณที่ให้แก้วตาดวงใจมา นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ชื่อแพทองธาร ถาเลือกเรา 2 ที่นั่งให้บ้านใหญ่ 4 ที่นั่ง เราเจ๊งเลย แต่ถ้าให้เรา 6 ที่นั่งบ้านใหญ่ศูนย์เลย

 

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ปราศรัยว่า พรรค พท.รู้สึกอบอุ่นมากที่พี่น้องมากันเต็มที่ขนาดนี้ แม้แดดร้อนแต่พี่น้องก็ยังมา แล้วแบบนี้คนท้อง 8 เดือนจะไม่มาได้อย่างไร วันเลือกตั้ง 14 พ.ค.ใกล้เข้ามาแล้ว ย้ำว่า หากพรรค พท.ได้เป็นรัฐบาลจะพักหนี้เกษตรกร 3 ปี ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้านการเกษตร เมื่อได้ผลผลิตมากขึ้น พรรค พท.จะทำให้ผลผลิตของพี่น้องเกษตรไปทั่วโลก เราไม่สามารถแบ่งใจให้พรรคอื่นได้ เรามีแค่ประชาชนสนับสนุนเท่านั้น เราไม่มีอะไรอย่างอื่นเลย วันนี้มาขอให้พี่น้องช่วยหันเลือก พท.ให้แลนด์สไลด์ทั้งนครปฐมได้หรือไม่ หากเราได้เบอร์เมื่อไหร่เราจะกลับมาบอกอีกครั้งและขอให้เลือกพรรค พท.ให้แลนด์สไลด์ทั้งนครปฐม

 

ด้าน นายณัฐวุฒิ ปราศรัยว่า แต่ก่อนบนอะไรจะบนด้วยหัวหมู แต่ตอนนี้เหลือแค่แคปหมู ในยุคพล.อ.ประยุทธ์ เจ้าที่ยังกินไม่อิ่ม การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องทำให้นครปฐมเป็นจังหวัดที่เลอฆ่าพล.อ.ประยุทธ์ให้ได้ ไม่ใช่ฆ่าด้วยอะไร แต่ต้องฆ่าด้วยการออกจากบ้านไปกา พท.ทั้ง 2 ใบ โพลทุกสำนักขานรับน.ส.แพทองธาร สะท้อนว่าเขาต้องการมองเห็นอนาคตข้างหน้า ไม่ใช่หันไปก็เห็นแต่ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมองไม่เห็นอนาคตเลย เห็นแต่อดีตที่เจ็บปวด แก้รัฐธรรมนูญมาให้ตัวเองอยู่ต่อ 8 ปี แล้วยังจะอยู่ต่ออีก พี่น้องจะไปกับเขาหรือไม่

 

ทั้งนี้ เลือกพรรคไหนก็ได้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าเลือก พท.ให้แลนด์สไลด์ไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีแน่ หากประชาชนเลือก พท.เกินครึ่งเราจะทำทุกนโยบายให้เป็นจริง อย่าไปเชื่อข่าวลือที่บอกว่าเราจะเอา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาเป็นนายกรัฐมนตรี วันที่ 5 เม.ย.นี้ นพ.ชลน่านจะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) เพื่อเตรียมประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคอื่นประกาศชื่อคนเดียว เมื่อวานนี้ (25 มี.ค.) พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ประกาศ 2 คน ที่เราต้องประกาศ 3 คน ก็เพราะเราจะชนะและเผื่อมีอุบัติเหตุอะไรที่ทำให้โดนสอยไปในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนจะมีการเลือกตั้ง

 

แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ตนเชื่อว่าจะเป็นคนที่มีความสามารถและเป็นที่ยอมรับของประชาชน ฉะนั้น ต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด เลือก พท.ทั้ง 6 เขตให้แลนด์สไลด์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ปราศรัยนายณัฐวุฒิได้ร้องเพลงลุงตู่อยู่รวมไทยสร้างชาติ

 

ซึ่งสร้างเสียงหัวเราะให้กับประชาชนที่มาฟังปราศรัยอยู่ โดยประชาชนได้ช่วยปรบมือเป็นจังหวะให้

 

ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิได้แปลงเนื้อเพลงลุงตู่อยู่รวมไทยสร้างชาติ เพื่อฝากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า “ก็ลุงตู่ ลุงตู่อยู่ไหน อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล อยู่ในวงจรอุบาทว์ เลือกลุงตู่ เลือกลุงตู่ไม่เชื่อลองดูจะฉิบหายกันทั้งชาติ”

 

บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน ลุงป้อม เดินหน้าเชื่อมโยงเครือข่าย ฐานข้อมูลสวัสดิการรัฐ

เมื่อ 24 มี.ค. 66 เวลา 10.00 น. พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบูรณาการเชื่อมโยงฐานข้อมูล ด้านสวัสดิการของรัฐ ครั้งที่ 1/2566 ณ ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

 

ที่ประชุมได้รับทราบ การดำเนินการออกแบบ การเชื่อมโยงฐานข้อมูลด้านสวัสดิการของรัฐ และการดำเนินการเชื่อมโยงฐานข้อมูล ผ่านหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รวมถึงข้อมูลบุคคลด้านอื่น ๆ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อาศัย เป็นต้น และได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีการจัดทำ API เพื่อใช้ค้นหาข้อมูลสวัสดิการที่ได้มีการเชื่อมโยง และรวบรวมข้อมูลแล้ว สามารถค้นหาด้วยหมายเลขบัตรประชาชน และจัดทำ Dashboard เพื่อแสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูล และแสดงความซ้ำซ้อนของสวัสดิการ และได้ทำการเชื่อมโยงฯ แล้วจำนวน 13 สวัสดิการ มีประชากรได้รับสิทธิ ถึง 19,348,391 ราย (27,923,508 สิทธิ) อาทิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กองทุนคุ้มครองเด็ก เบี้ยความพิการ และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นต้น

 

จากนั้น คณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันพิจารณาเห็นชอบการดำเนินการเชื่อมโยงฐานข้อมูลด้านสวัสดิการของรัฐในระยะต่อไป จำนวน 22 สวัสดิการ (เดิม 13 สวัสดิการ) และเห็นชอบการบริหารจัดการฐานข้อมูลด้านสวัสดิการของรัฐ โดยมีหน่วยงานหลักที่สำคัญ ได้แก่ ก. ดีอีเอส , สถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)

 

พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ ก. ดีอีเอส, กค., มท.และ พม.ให้เร่งรัดการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการฯ เพื่อให้ฐานข้อมูลสวัสดิการของรัฐ เป็นระบบเดียวกัน ครอบคลุมประชากรที่จะได้รับการช่วยเหลือทุกกลุ่มเป้าหมาย และตอบสนองความต้องการ การให้บริการประชาชนได้ อย่างสะดวกรวดเร็ว เข้าถึงได้ง่าย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ ตามนโยบายของรัฐบาลและยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาส และความเสมอภาค

นายธนาธร กล่าว

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 23 มี.ค. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล ร่วมหาเสียงกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ พรรคก้าวไกล ตลอดทั้งวันโดยในช่วงหนึ่งของการปราศรัย นายธนาธร กล่าวว่า วันนี้ตนเดินตลาดมาทั้งวัน

 

ก่อนหน้านี้ก็ได้เดินตลาดมาในทุกภาค พ่อค้าแม่ขายและประชาชนทุกที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไปต่อไม่ไหวแล้ว นี่คือผลพวงจากวิกฤติโควิดที่ไม่ได้เป็นความผิดของประชาชนเลย และนี่ยิ่งเป็นเหตุผลให้ประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างรัฐสวัสดิการขึ้นมา เพราะหากประชาชนอยู่ในสภาพอ่อนล้าเช่นนี้ ประเทศชาติจะเข้มแข็งได้อย่างไร

 

"ประเทศไทยไม่สามารถสร้างอนาคตจากการแจกเงินอย่างเดียว แต่ต้องสร้างอุตสาหกรรมใหม่มาสร้างงานให้ประชาชน รองรับคนจบการศึกษาใหม่ปีละ 7-8 แสนตำแหน่ง ทุกวันนี้อุตสาหกรรมหลักของประเทศ ทั้งยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ล้วนแต่ไม่ได้เป็นอุตสาหกรรมของคนไทย และไม่สามารถพาประเทศไปไกลกว่านี้แล้ว ประเทศไทยสามารถสร้างอุตสาหกรรมใหม่ขึ้นมา มีเทคโนโลยีเป็นของตัวเองได้มากมายจากปัญหาที่ดำรงอยู่ เช่น รถเมล์ไฟฟ้า

 

เพื่อแก้ทั้งปัญหามลพิษ การจราจร และการเข้าไม่ถึงระบบขนส่งสาธารณะของคนไทย ไปได้พร้อมๆ กัน เป็นต้น"

 

นายธนาธร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าการเมืองยังเป็นแบบนี้อยู่ จะสร้างสังคมและประเทศไทยที่มีอนาคต จะต้องมีการปฏิรูปในเรื่องยากๆ ในเรื่องที่จะต้องเจอตอ เช่น การปฏิรูปกองทัพ การต่อสู้กับทุนผูกขาด ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยเจตจำนงทางการเมืองที่แน่วแน่ และวันนี้พรรคที่ตนเห็นว่ามีเจตจำนงปฏิรูปในเรื่องยากๆ กล้าชนปัญหาที่ต้นตอแบบนี้ ก็มีอยู่เพียงพรรคเดียวเท่านั้นคือพรรคก้าวไกล

 

"หลายคนบอกว่าพรรคอนาคตใหม่มาจนเป็นพรรคก้าวไกลในวันนี้เป็นพรรคที่สุดโต่ง แต่ความจริงแล้วทุกข้อเสนอของพรรคก้าวไกลคือข้อเสนอขั้นต่ำของทุกประเทศที่เจริญแล้วบนโลก คำถามคือสรุปแล้วพรรคก้าวไกลสุดโต่งหรือประเทศของเราล้าหลังเกินไปกันแน่ และการที่คนจำนวนหนึ่งไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลงเป็นเพราะระบบแบบนี้กำลังเอื้อประโยชน์ให้คุณอยู่ใช่หรือไม่ ไม่ต้องไปมองที่ไหนไกล สมุทรปราการเป็นเมืองใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศไทย แต่คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นบ้างหรือไม่ภายใต้ระบบที่เป็นมา น้ำในคลอง ขยะหน้าบ้าน ฟุตบาทริมทาง ถนนหนทาง ดีขึ้นบ้างหรือไม่ จากการเมืองแบบเดิม"

 

นายธนาธร กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีความสำคัญมาก หนึ่งเสียงของทุกคนกำหนดอนาคตของประเทศไทยได้ ขออย่าชินชากับการเมืองแบบเดิมๆ ที่ไล่เก็บบัตรประชาชนก่อนวันเลือกตั้ง ความยากจน ความไม่ยุติธรรม การเอารัดเอาเปรียบ จนยอมรับและรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ทั้งที่ความจริงแล้วอำนาจอยู่ในมือของทุกคน ที่จะทำให้ชีวิตของเราดีกว่านี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องยอมจำนน

 

“ภารกิจของคนรุ่นเรา คือการส่งต่อสังคมที่ดีกว่านี้ให้คนรุ่นต่อไปลำบากน้อยกว่าเรา อำนาจคือบัตรเลือกตั้งของทุกคน พรรคก้าวไกลเพียงลำพังไม่พอจะเปลี่ยนแปลงได้ แต่ต้องอาศัยแรงจากทุกคนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง อย่าให้ความอยุติธรรมเป็นส่วนหนึ่งจนชาชิน เพราะเราสร้างสังคมและประเทศที่ดีกว่านี้ให้ลูกหลานของเราได้” นายธนาธร กล่าว

 

 

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ว่า

จากกรณีการจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคการเมือง ซึ่งกำลังเป็นประเด็นที่สังคมกำลังจับตามองอยู่นั้น นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ว่า

 

ผมก็เรียนว่าการจัดปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคการเมืองโดยหลักการก็จะเรียงตามลําดับ ผู้บริหาร คณะทํางาน ซึ่งโดยลําดับหนึ่งก็ต้องเป็นหัวหน้าพรรค แล้วก็รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค รองหัวหน้า เรียงลงไปซึ่งปกติของพรรคการเมือง พรรคพลังประชารัฐก็จัดตามนี้ ส่วนที่เหลือก็จะเป็นตามบุคลากรหรือคนที่มีบทบาทมาช่วยงานในพรรคพลังประชารัฐเป็นเรื่องปกติ เพื่อมาช่วยกันขับเคลื่อนงานสภาและงานการเมืองในอนาคตหลังการเลือกตั้ง

 

ความรู้สึกความอบอุ่นของพลเอกประวิตรกับลูกๆที่ถ่ายรูป อย่างพรรคพลังประชารัฐ ก็เป็นพรรคที่ก่อตั้งมาหลายปีแล้วก็สามารถร่วมแรงร่วมใจกันทํางานมาครบสี่ปี เราอาจจะมีการขัดแย้งกันบ้าง มีคนเข้าบ้างคนออกบ้าง แต่ว่าทุกคนก็ยัง รักและเคารพท่านพลเอกประวิตร หัวหน้าพรรค ก็คิดว่าถ้าเป็นพ่อแล้วกัน เราก็เป็นลูก ที่เป็นพี่น้องกันก็ช่วยกันทํางานให้พรรค ในวันนี้ก็อยู่มาได้สี่ปีแล้วแต่ว่าถ้าไม่มีพลเอกประวิตร รัฐบาลคงอยู่ไม่ได้ครบสี่ปี ก้าวข้ามความขัดแย้งกันได้จนสามารถบ้านเมืองสงบสุข พัฒนาประเทศไทย เพราะเชื่อว่าการเลือกตั้งเราก็จะช่วยกันทํางานต่อไปได้

 

ลุงป้อมเปิดบ้านทุกวันแล้วก็มีคนมาทานข้าวด้วย จริงๆก็มีหลายพรรคทั้งพรรคเล็กพรรคใหญ่ พรรคกลางมาหมดเพียงแต่ว่าบางทีก็ภาพไม่ได้ออกไป แต่ว่าอย่างพรรคภูมิใจไทยเขาก็เป็นพรรคขนาดใหญ่มาทานข้าว คนอาจจะให้ความสนใจ มีมาทุกพรรคทุกกลุ่มไม่ได้เรื่องผิดปกติ ผมว่าผมไม่อยากพูด ก็มาคุยกันเรื่อยๆเกือบทุกพรรค ยกเว้นพรรคฝ่ายค้าน การวางตัวผู้สมัครมีข้อมูลครบหมดแล้ว

 

โดยจะประชุมกรรมการบริหารพรรคภายในก่อนสิ้นเดือนนี้ มีเป้าหมายวางครบทุกเขต ส่วนผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อจะทำให้เรียบร้อยก่อนวันที่ 3 เม.ย.2566 ซึ่งจะทำให้ครบถ้วนตามกฎหมายแน่นอน นายชัยวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย

 

‘‘พนันออนไลน์กับระบบคอร์รัปชั่น’’

วันที่ 22 มีนาคม 2566 ชมรมต่อต้านการคอร์รัปชั่น แห่งมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้กําหนด จัดโครงการเสวนาในหัวข้อ ‘‘พนันออนไลน์กับระบบคอร์รัปชั่น’’ ขึ้น ในวันที่ 22 มีนาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 12.00 น. ณ ห้อง 11 - 0903 คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
 
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการทราบมุมมองของเยาวชนต่อเรื่องพนันออนไลน์กับระบบคอร์รัปชั่น ตระหนักรู้ถึงผลของภัยของการพนันออนไลน์และแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดในเรื่องพนันออนไลน์กับการคอร์รัปชั่น เพื่อเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้มีพื้นที่แสดงความคิดเห็นเพื่อหาทิศทางการพัฒนาประเทศร่วมกันต่อไป
 
โดยมีตัวแทนวิทยากร2ท่านเข้าร่วมเสวนาได้แก่ นายณัฐวีร์ พุ่มระชัฎร์ อดีตประธานชมรมต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ และนายภูริทัต สายแสน ผู้แทนในโครงการ Digital Youth Network Thailand ผู้นําเยาวชนอาสาดิจิทลั ร่วมเสวนาเกี่ยวกับการพนันออนไลน์กับการคอร์รัปชั่น ซึ่งได้เสนอความความเห็นภายในงานว่า
 
โดยภายในการเสวนานั้นได้มีข้อมูลที่น่าสนใจได้แก่ เหตุผลที่การพนันถึงเป็นที่น่าสนใจ เพราะ การพนันนั้น ไม่ได้จํากัดเพศ วรรณะ และทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยเฉพาะกลุ่ม เยาวชนและการพนันออนไลน์ก็มีสิ่งที่น่าดึงดูดใจให้บุคคลต่าง ๆ เข้าไปทําการเล่นพนันออนไลน์มากขึ้น
 
โดยกลุ่มเยาวชนที่อายุน้อยที่สุด คือ อายุ 7 ปี หรือ ป.1 ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ประชาชนสามารถเข้าถึงการพนันออนไลน์ได้มากขึ้น
 
เนื่องจากเป็นไปตามกระแสโลกาภิวัฒน์ ทุกคนสามารถเข้าถึงการพนันออนไลน์ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยน IP ทําให้การพนันออนไลน์สามารถเข้าถึงได้ง่ายแต่ก็ทําให้ควบคุมยากบรรทัดฐานทางสังคมทําให้เกิดการขัดแย้งในเรื่องของศีลธรรม เกิดการขัดแย้งระหว่างสองความคิดระหว่าง แนวคิดแบบเก่าและแนวคิดแบบใหม่
 
“เป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่” การพนันออนไลน์ก็คือการพนันเหมือนกัน สามารถทําให้ “คนเป็นเศรษฐีชั่วคราวแต่เป็นยาจกไปชั่วชีวิต”
 
ส่วนสถานการณ์การพนันออนไลน์นั้น พบว่าใน 2 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2564–2565) พบว่าการพนันออนไลน์มีการเติบโตขึ้นมากเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) ทําให้คนในสังคมเกิดความอัดอั้นทางอารมณ์ ประกอบกับการพนันออนไลน์เกิดขึ้นมาก ทําให้การพนันออนไลน์มีการเติบโตขึ้นมาก
 
แม้กระทั่งในต่างจังหวัดก็เริ่มพบเด็กและเยาวชนเล่นการพนันเป็นปกติอีกทั้งบุคคลที่เล่นพนันออนไลน์ ก็ไม่มีความผิดตามกฎหมาย พนัน แต่มีความผิดตาม พ.ร.บ. คอม พ.ศ. 2560 และเมื่อสํารวจเว็บไซต์การพนันออนไลน์ก็พบโดยเว็บไซต์การพนัน ออนไลน์ถึง 214 เว็บไซต์ และทําให้เกิดการฟอกเงิน นําเงินที่ผิดกฎหมายมาเล่นการพนัน ที่มาจากการชิงปล้น หลอกลวง ชิงทรัพย์ผู้อื่นทําให้ครอบครัวเกิดการแตกแยก
 
ส่วนการผลักดันการพนันออนไลน์ให้ถูกต้องตามกฎหมายนั้นต้องผลักดันโดยอํานาจทางการเมืองเราจึงไม่เห็นในประเทศไทย และในบางครั้ง รัฐก็ควบคุมไม่ได้ ในประเทศไทยเองก็มิใช่ว่าจะไม่ควบคุม รัฐบาลรู้ เข้าถึงจริง แต่ขาดความรู้ใน การจัดการอีกทั้งกฎหมายมีความล้าสมัยและมีช่องว่างทําให้เกิดความสับสนว่าหน่วยงานไหนมีอํานาจจัดการทําให้การ เอาผิด การปราบปรามทําได้ยาก ส่วนในมิตินโยบายสาธารณะ ก็เกิดคําถามที่ว่า ไม่ทราบว่ารัฐทราบหรือไม่ทราบเรื่องการ พนันออนไลน์ จนมีบุคคลมาเปิดโปงจึงทราบว่ามีการพนันออนไลน์
 
ภายในงานมีข้อเสนอแนะจากผู้ที่เข้าร่วมเสวนา คือ
 
1. หากเปิดการพนันให้มีการเสรี เราต้องคุ้มมครอง ป้องกัน สิทธิเด็ก รัฐต้องเข้มขวด ออกกฎหมาย และต้องมีการบังคับใช้จริง
 
2. นายกรัฐมนตรี ต้องหาข้อมูล ต้นแบบจากประเทศที่ทําได้อยู่แล้ว และนํามาปรับใช้ในไทย ซึ่งสามารถทําให้เป็น softpower ได้ด้วยอีกทั้งหากมีการสร้างคาสิโนก็จะเป็นการสร้างงานสร้างรายได้กระจายรายได้ให้กับพื้นที่ที่คาสิโนตั้งอยู่ได้แต่ก็ต้องคํานึงในเรื่องพื้นที่ที่เหมาะสม
 
ทั้งนี้ภายในงานนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ฝากประเด็นในวงเสวนาครั้งนี้ในรูปแบบวิดีโออีกด้วยโดยกล่าวว่า “ขอบคุณผู้จัดงานในครั้งนี้ที่ได้เชิญให้ตนเองมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับหัวข้อนี้ ซึ่งเป็นหัวข้อที่น่าสนใจมาก ดีใจที่เยาวชนให้ความสนใจในเรื่องปัญหาสังคมซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของระบบการเมืองไทยด้วย
 
เพราะกฎหมายห้ามทางการพนันออนไลน์แต่บริบทของสังคมไทยเปลี่ยนไปแล้ว ปัจจุบันมีเว็บการพนันเข้ามามากแพร่หลายมากจนเป็นวิถีชีวิตหนึ่งของสังคมไทยไปแล้ว ซึ่งเราควรจะคุยกันว่ามีการปรับปรุงกฎหมายอย่างไร เปลี่ยนส่วยเป็นภาษี เพราะทุกวันนี้พอมันผิดกฎหมายก็จะมีการจ่ายส่วย เกิดธุรกิจใต้ดิน เกิดผลประโยชน์ที่ไม่ถูกกฎหมาย เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาผมว่าถึงเวลาที่เราจะต้องแก้ไขกฎหมายให้ทันสังคมไทย อยากให้ทุกคนส่งเสียงให้นักการเมืองและพรรคการเมืองนำสิ่งนี้ไปแก้ไขต่อไป”
 
 

พรรคภูมิใจไทย มี “นโยบายพลังงานสะอาด ลดรายจ่ายประชาชน ฟรี !

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคภูมิใจไทย กล่าวในเวทีเสวนาออนไลน์ : ล้านหลังคา ล้านโซล่าเซลล์ จัดโดย สภาองค์กรของผู้บริโภค โดยนำเสนอว่า พรรคภูมิใจไทย มี “นโยบายพลังงานสะอาด ลดรายจ่ายประชาชน ฟรี ! หลังคาโซล่าเซลล์ ลดค่าไฟฟ้า หลังคาเรือนละ 450 บาท มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ผ่อน เดือนละ 100 บาท 60 งวด”

 

โดยคาดว่าจะมีการติด โซล่าเซลล์ 21 ล้านหลังคาเรือน เราคิดว่าจะติดให้ฟรีทุกครัวเรือน เป็นเรื่องที่สามารถทำได้จริง โดยแหล่งเงินจะมาจากการทำกองทุนขายพันธบัตร ระดมทุนให้สามารถติดโซล่าเซลล์ ได้ทุกหลังคาเรือน

 

“ทำเหมือนกับการเปลี่ยนระบบโทรทัศน์จากระบบอนาล็อก ไปเป็นโทรทัศน์ระบบดิจิตอล เมื่อไม่นานที่ผ่านมา เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ ให้สามารถทำฐานการผลิตโซล่าเซลล์ ในประเทศไทย คิดดูว่าจะทำให้เกิดการจ้างงานจำนวนมหาศาล คิดดูว่า 21 ล้านหลังคาเรือน จะมีการจ้างงานเท่าไหร่ ในปีที่ผ่านมา เรื่องหลังคาโซล่าเซลล์ เติบโตเพียง 1% ประเทศไทยไม่มีโรงงานผลิตโซล่าเซลล์ หากการติดโซล่าเซลล์ 20 ล้านหลังคาเรือน เกิดขึ้น เราจะเป็นฐานโรงงานผลิตโซล่าเซลล์ และเกิดกาจ้างงานมหาศาล และผลิตไฟฟ้า ได้ประมาณครึ่ง ของพลังงานที่ผลิตในประเทศ เป็นพลังงานสะอาด”

 

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า วันนี้โลกมีกำแพงเกิดขึ้น เรียกว่าคาร์บอนเครดิต หากเรามีอากาศสะอาด เป็นเรื่องที่สามารถดึงดูดนักลงทุนในประเทศได้ง่ายกว่า ติดให้กับทุกหลักคาเรือน ขนาดประมาณ 3 KVA หรือคิดเป็น 450 บาท ที่จะสามารถประหยัดค่าพลังงานได้ หากนโยบายพรรคภูมิใจไทย สำเร็จ อาจจะให้รวมกลุ่มชุมชน ขายตรงให้โรงงานอุตสาหกรรม ไม่ต้องเสียส่วนต่างให้การไฟฟ้าได้อีกด้วย

 

นายสิริพงศ์ กล่าวด้วยว่า นโยบายชุดนี้ มีเรื่อง มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยกำหนดสิทธิ์ 1 หลังคาเรือน ที่ติดตั้งโซล่าเซลล์ จะได้สิทธิ์ซื้อได้ 1 คัน ดังนั้น 21 ล้านหลังคาเรือน คิดดูว่าจะเกิดการปฎิวัติอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า อาจจะเป็นที่ 1 ของอาเชีย หรือที่ 1 ของทวีปเอเชีย ได้เลย เป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กับประเทศชาติ แต่ทั้งหมดมีปัญหาอุปสรรค์ ที่ต้องไปติดปัญหาเรื่องต่างๆ ทั้งใบอนุญาต ไปติดเงื่อนไขอุตสาหกรรม กรมโรงงาน แต่พรรคภูมิใจไทยทลายทุกข้อจำกัด นโยบายนี้จะเป็นจริง ถ้านายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคภูมิใจไทย จะต้องได้เสียงมากพอ เราจะทำนโยบายนี้ได้แน่นอน

 

ชัยวุฒิ ชม มหาวิทยาลัยสยาม ตั้งเวทีเสวนาบุหรี่ไฟฟ้า เยาวชนร่วมแสดงความเห็นแน่น

วันนี้ (22 มีนาคม 2566) มหาวิทยาลัยสยาม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าร่วมงานเสวนาวิชาการ หัวข้อ กัญชาและบุหรี่ไฟฟ้าเมื่อไหร่จะเสรี โดย ดร.พรชัย มงคลวนิช อธิการบดีมหาวิทยาลัยสยาม ผู้จัดงาน ได้กล่าวว่า ในช่วงปัจจุบันเกิดข้อสงสัยและเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขว้างในประเด็นเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากมีคนหลายกลุ่มที่เป็นผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าจริงอยากขับเคลื่อนให้ถูกกฎหมาย แต่ในอีกด้านก็ยังคงมีการต่อต้าน ด้วยเหตุผลนี้ทางมหาวิทยาลัยสยามจึงจัดเวทีเสวนาทั้งในด้วย บุหรี่ไฟฟ้าและกัญขึ้น เพื่อให้นักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยสยามร่วมกันแลกเปลี่ยนประเด็นกับวิทยากร เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดในสังคมต่อไป

 

โดยนายชัยวุฒิ ขอบคุณผู้จัดงานที่เชิญผมเข้าร่วมเสวนาในครั้งนี้ ผมอยากให้มีการจัดงานเวทีเสวนาแบบนี้ในหลาย ๆ แห่ง เพื่อส่งเสียงของประชาชนให้ถึงผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและกัญชา ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่าง ๆ เพื่อนำไปพัฒนาประเทศ สำหรับโครงการเสวนาในครั้งนี้ขอบคุณทางมหาวิทยาลัยสยามที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการจัดทำโครงการ เสวนาวิชาการ “กัญชาและบุหรี่ไฟฟ้าเมื่อไหร่จะเสรี” นี้ขึ้น 

 

เพื่อให้นักศึกษาได้ร่วมแสดงความคิดเห็น สร้างความตระหนักเข้าใจถึงโทษและคุณประโยชน์ของกัญชาและบุหรี่ไฟฟ้าในด้านต่าง ๆ โดยในงานเสวานาครั้งนี้ ความคิดเห็นของนักศึกษามหาวิทยาลัยสยามจะเป็นไปในทิศทางใด พวกเราก็พร้อมนำความคิดเห็นของทุกคนไปต่อยอดและขับเคลื่อนต่อไป โดยทุกประเด็นที่ได้ร่วมกันเสวนาผมจะนำไปปรับปรุง แก้ไข และพัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมต่อไป สำหรับโครงการเสวนาในครั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยสยามได้เชิญวิทยากรร่วมแลกเปลี่ยนประเด็นกับนักศึกษา ดังนี้ ผศ.ดร.อรทิพา ส่องศิริ  คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ได้ให้ความเห็นว่า กัญชาเป็นพืชที่มีทั้งประโยชน์และโทษ ขึ้นอยู่กับขนาดและวิธีการใช้งานไม่ว่าจะใช้งานทางการพยาบาลก็ตาม ในมุมมองของอาจารย์เชื่อว่ากัญชามีประโยชน์หากใช้ถูกวิธี

 

ดร.ศตเนติ เนติภัทรชูโชติ อาจารย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม กัญชาและบุหรี่ไฟฟ้า ความเห็นของผมในฐานะที่จบการศึกษาจากเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่สองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย แม้จะไม่ใช่ทุกประเด็นก็ตาม แต่เค้าก็พัฒนาให้สองสิ่งนี้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนาประเทศในหลากหลายแง่มุม เช่น ทางการแพทย์ และการท่องเที่ยว ดังนั้น ประเทศไทยควรพัฒนาสองสิ่งนี้ให้เป็นจุดขายของประเทศเช่นกัน แต่ขอย้ำว่าต้องตกอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายที่ถูกต้อง กับทั้งให้ความรู้เพิ่มเติมเชิงลึกกับเยาวชนเพื่อให้เห็นทั้งข้อดีและข้อเสียของมันไปพร้อมๆกัน

 

ดร.กฤป จุระกะนิตย์ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ส่วนตัวเชื่อว่า บุหรี่ไฟฟ้านักศึกษาส่วนใหญ่ใช้จริง และควรผลักดันให้ถูกกฎหมายเพราะถ้าเปรียบกับบุหรี่ธรรมดานั้น บุหรี่ไฟฟ้ามีภัยน้อยกว่าเยอะ หากผลักดันให้ถูกต้องเชื่อว่าจะเป็นแหล่งเพิ่มเงินให้กับประเทศด้วย และผมก็สนับสนุนกัญชาเพราะสามารถจากมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้มากเลยทีเดียว สำหรับโครงการเสวนาในครั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยสยาม เล็งเห็นถึงความสําคัญในการจัดทําโครงนี้ขึ้น เพื่อให้นักศึกษาได้ร่วมแสดงความคิดเห็น ตระหนักและเข้าใจถึงโทษ และผลกระทบของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า หรือการสูดดมควันจากบุหรี่ไฟฟ้า และประเด็นเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าควรถูกกฎหมายหรือไม่ ร่วมถึงพืชกัญชาด้วย จะเป็นไปในทิศทางใด ในความคิดของนักศึกษามหาวิทยาลัยสยาม

ความชัดเจนการเสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.

วันที่ 22 มี.ค.2566 - นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงความชัดเจนการเสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ลงสมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อของพรรคว่า

 

โดยหลักการผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อลำดับที่หนึ่งเป็นของหัวหน้าพรรคอยู่แล้ว นอกจาก พล.อ.ประวิตรจะติดขัดก็จะพิจารณาอีกที ส่วนลำดับอื่นๆ จะเป็นกรรมการบริหารพรรคเรียงไปตามลำดับ ถือเป็นเรื่องปกติของทุกพรรคการเมือง ยกเว้นบางพรรคที่เป็นครอบครัวอาจให้หัวหน้าครอบครัวก่อน หรืออาจมีใครที่ใหญ่กว่าหัวหน้าพรรค เพราะโครงสร้างแต่ละพรรคไม่เหมือนกัน

 

แต่สำหรับพรรคพลังประชารัฐหัวหน้าพรรคคือเบอร์หนึ่งแน่นอน นายชัยวุฒิ กล่าวว่าส่วนพรรคพลังประชารัฐจะมีความชัดเจน เรื่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อเมื่อไหร่นั้น น่าจะเป็นวันที่ 28 มี.ค.นี้ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามไทม์ไลน์ของพรรค

 

เพราะต้องมีการประชุมทำไพรมารีโหวตก่อน และต้องประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพราะกระบวนการพิจารณาสุดท้าย อยู่ที่กรรมการบริหารพรรค ซึ่งจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 มี.ค.นี้ และวันที่ 30 มี.ค.จะแถลงเปิดตัว

 

จะให้ซื้อลอตเตอรี่ได้อย่างเท่าเทียมในราคา 80 บาท ยิ้มอย่างมีความสุข ซื้อหวยอย่างมีความสุข เลือกครูปรีชาครับ

21 มี.ค.2566 - เมื่อเวลา 17.00 น. เพจสำนักข่าวกาญจน์ โพสต์คลิปเปิดตัว ครูปรีชา หวย 30 ล้าน ที่อัดคลิป ประชาสัมพันธ์ตัวเองในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กาญจนบุรี เขต 1 โดยสวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีขาว พรรคประชากรไทย ได้รับความสนใจฮือฮาจากชาวโซเชียลพอสมควร 

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายปรีชา ใคร่ครวญ เปิดเผยว่า ตนได้ตัดสินใจลงสมัคร สส.กาญจนบุรี เขต 1 ในนามพรรคประชากรไทย โดยในวันนี้ (22 มี.ค.) จะเปิดตัวที่สำนักงานใหญ่พรรคประชากรไทย ชอบพรรคนี้ตั้งแต่เด็ก ชื่นชอบท่านสมัคร สุนทรเวช พูดปราศรัยดีมาก เป็นทั้งอดีตนายกรัฐมนตรี อดีตผู้ว่าฯ กทม. อดีตรัฐมนตรี และพรรคนี้เป็นพรรคที่ใกล้ชิดประชาชน ตนอยากใกล้ชิดประชาชน อยากช่วยเหลือประชาชน จึงลงสมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 1 ในครั้งนี้ ส่วนนโยบาย ถ้าได้รับเลือกเป็น ส.ส.จะผลักดันไม่ให้ขายสลากลอตเตอรี่เกินราคา จะให้ซื้อลอตเตอรี่ได้อย่างเท่าเทียมในราคา 80 บาท ยิ้มอย่างมีความสุข ซื้อหวยอย่างมีความสุข เลือกครูปรีชาครับ

ครูปรีชา เดิมเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนเทพมงคลรังษี ต่อมาเป็นคู่ความในคดีหวย 30ล้าน ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนติดตามทำข่าวอย่างต่อเนื่อง ครูปรีชาโด่งดังมากเมื่อเป็นคู่กรณีที่มีการสอบสวนสืบสวนและมีการฟ้องร้องไต่สวนพิพากษาคดีล้วนเป็นข่าวที่ประชาชนสนใจติดตามคดีหวย 30 ล้านไปทั่วประเทศ

ต้องได้ 100 เสียง อนุทิน ตั้งเป้าภูมิใจไทย เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล สร้างความปรองดอง ประชาชนอยู่ดีกินดี เน้นพัฒนาฐานราก

วันที่ 21 มี.ค.2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์หลังจากยุบสภา ว่า พรรคพร้อมเลือกตั้ง เราเตรียมตัวมานานแล้ว จากนี้จะเร่งสร้างความไว้วางใจให้ประชาชน

ที่ผ่านมามีเสียงวิจารณ์ว่าเราดำเนินการเพื่อไปเป็นพรรคตัวแปร แล้วร่วมรัฐบาล ตนขอบอกว่า ถ้าคิดแบบนั้น เรามีแค่ 30-40 เสียง ก็ได้แล้ว ไม่ต้องตั้งใจจะเอามากมาย แต่ตนในฐานะหัวหน้าพรรค มองว่านอกจากโอกาสทำงาน เราต้องพาประเทศไทยสู่ความรุ่งเรืองอย่างมั่นคง ปรองดอง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นความโดดเด่นของพรรค เราต้องนำทั้งฝ่ายอนุรักษ์ และฝ่ายประชาธิปไตย มาร่วมมือกัน เดินหน้าพัฒนาประเทศ

“เราต้องสร้างให้ประชาชนแข็งแรงก่อน ถ้าฐานมันแข็งแรง ส่วนอื่นๆ ก็แข็งแรง ถ้าฐานอ่อนแอ มันก็พังทั้งหมด ตอนนี้ประชาชนต้องหาทางให้อยู่ดี กิน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เราเลยมีนโยบายพักหนี้ 3 ปี ไม่เกิน 1 ล้านบาท มีนโยบายเกษตรร่ำรวย เพื่อช่วยเหลือประชาชน” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามถึงจำนวน ส.ส.ที่คาดว่าพรรคจะได้รับ นายอนุทิน กล่าวว่า น่าจะถึง 100 เสียง ปัจจุบัน มีประมาณ 75 ที่นั่ง เป้าของเราไป 100 แล้วตอนนี้ เมื่อถามย้ำถึงตัวเลข 70 ที่นั่ง นายอนุทิน กล่าวว่า อันนั้นเป็นข้อมูลของโพลทั่วไป แต่เป้าของเราต้องแตะหลัก 100 ที่นั่ง

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ผ่านมา เราทำงานด้วยกันได้ ทุกพรรคล้วนมีผลงาน ตั้งใจทำงาน เป็นความร่วมมือที่ดี รัฐบาลผสมก็มีส่วนดี มันเช็กแอนด์บาลานซ์

เมื่อถามว่าจะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องรอหลังเลือกตั้งแล้วหารือกัน เพราะมีปัจจัยจำนวนมากให้ต้องคิด ทั้งเสียง ส.ส. ที่แต่ละพรรคจะได้ ทั้งท่าทีของ ส.ว.

เมื่อถามว่าการโจมตีทางการเมืองที่เกิดขึ้นกับพรรคภูมิใจไทย กระทบกับคะแนนเสียงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนมองว่าพรรคเรามีราคา ก็ต้องถูกด้อยค่า แค่นั้นเอง เราจะไม่ไปสู้ แต่จะลุยหาเสียง สร้างความไว้ใจกับประชาชนดีกว่า เพราะการที่เรามามัวโต้ตอบ อาจทำให้เราพลาดลงพื้นที่ไป 10-20 ตำบล

เรื่องที่เขาพูด มันชัดอยู่แล้วว่าไม่เป็นความจริง อย่างเรื่องเงินเข้าธนาคาร 30,000 ล้านบาท มันเป็นไปได้ที่ไหน เงินเข้ามาขนาดนี้ ถูกตรวจสอบตาย แล้วมาบอกว่ามีทุจริตรถไฟฟ้าสายสีส้ม นี่ก็เป็นไปไม่ได้ เรื่องยังไม่ผ่านครม.เลย กาลเวลาจะพิสูจน์เอง

ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เผยภายในปีนี้ จะมีรถขนส่งไฟฟ้า เปิดให้บริการในไทย 71 คัน

วันนี้ (20 มี.ค. 66) ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ผู้ให้บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศชั้นนำของโลก ขยายจำนวนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ใช้ในการขนส่งในประเทศไทย โดยเพิ่มรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าอีก 16 คัน ในการจัดส่งแบบลาสไมล์ นอกเหนือจากรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 50 คันที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน การขยายจำนวนการใช้งานรถ EV ในครั้งนี้ทำให้ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เป็นผู้ให้บริการลอจิสติกส์รายแรกในประเทศไทยที่เปลี่ยนไปใช้รถ EV ในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ รถขนส่งพลังงานไฟฟ้านี้เริ่มทำการขนส่งสินค้าในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2566 

 

โดยให้บริการในกรุงเทพ เขตพื้นที่ต่างๆ ได้แก่ สาทร, สีลม, ปทุมวัน, พระราม 3, ถนนสุขุมวิท, และถนนเพชรบุรีตัดใหม่ โดยดีเอชแอลมีแผนที่จะเพิ่มรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าอีก 5 คันในเฟสถัดไป เพื่อใช้งานในเส้นทางภาคตะวันออก ซึ่งจะทำให้ดีเอชแอลมีรถ EV ที่ให้บริการทั้งหมดในประเทศไทยรวมจำนวน 71 คัน ภายในปี 2566 ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนมาใช้รถ EV เป็นจำนวน 60% ของยานพาหนะทั้งหมดในประเทศไทย ภายในปี 2573

 

เฮอร์เบิร์ต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย และหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า “ความยั่งยืนไม่ใช่เทรนด์ แต่เป็นภารกิจที่เราให้ความสำคัญมาเป็นอันดับหนึ่ง และดีเอชแอลมีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมลอจิสติกส์ระดับโลก เราจำเป็นต้องผลักดันให้ทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมร่วมมือกันเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในการดำเนินงานด้านลอจิสติกส์ และเรากำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิให้เหลือศูนย์ ภายในปี 2593 

 

โดยให้ความสำคัญกับการเป็นกรีนลอจิสติกส์ ด้วยการเปลี่ยนไปใช้รถขนส่งพลังงานไฟฟ้า ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย ตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งสิ้น 436 ตันต่อปี โดยรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าชุดนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการนำเราไปสู่ลอจิสติกส์ที่ยั่งยืน และการสร้างอนาคตที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ทุกคน”

เพชรบุรี กระตุ้นท่องเที่ยว จัดงานวิ่งบิกินีบีชรัน 2023 ปชช. นทท. ร่วมงานคึกคัก

เมื่อวานนี้ (19 มี.ค. 66)  นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานเปิด งานวิ่งบิกินีบีชรัน 2023  ครั้งที่ 14 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเพชรบุรีให้คึกคัก โดยมี  นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายวสันต์ กิตติกุล นายกสมาคมโรงแรม ไทยภาคตะวันตก  สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเพชรบุรี  JOG & JOY และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเปิดงานอย่างพร้อมเพรียงกัน ณ บริเวณชายหาดชะอำ หน้าโรงแรมลองบีช จังหวัดเพชรบุรี  

 

งานวิ่งบิกินี่บีชรัน 2023"ได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่14  ที่ชายหาดชะอำ จ.เพชรบุรี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว หาดชะอำจังหวัดเพชรบุรีให้คึกคัก  เปิดกิจกรรมสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ตามนโยบายของรัฐบาล   ส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพในรูปแบบใหม่  ให้สอดคล้องกับเมืองท่องเที่ยวชายทะเล  และส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ  ยกระดับการจัดการแข่งขันวิ่งฮาล์ฟมาราธอนนานาชาติ ให้กับหาดชะอำ โดยเป็นงานวิ่งที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันใส่บิกินี่แข่งขัน เพราะใช้เส้นทางวิ่งเลียบหาดชะอำ  ซึ่งในช่วงสุดท้ายนักวิ่งทุกคนจะต้องวิ่งบนชายหาด ระยะทางกว่า2กิโลเมตร โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น4ประเภท ได้แก่ ฮาล์ฟมาราธอน 21.กม., มินิมาราธอน10.5กม. และบิกินี่ รัน10.5กม. โดยมีนักวิ่งสนใจเข้าร่วมกิจกรรมนับ 1,000 คน  ส่งผลให้ชายหาดชะอำคึกคักยิ่งขึ้น


© Copyright 2022, All rights reserved. Klang Time Thailand
Take Me Top